กระบี่กระบอง
กระบี่กระบอง
เป็นการแสดง การเล่น การฝึก
การต่อสู้ป้องกันตัวด้วยอาวุธโบราณของไทยเราที่ใช้ต่อสู้ป้องกันตัว
ป้องกันประเทศในสมัยก่อน โดยทำเลียนแบบอาวุธจริง เป็นไม้ โลหะ หนังสัตว์ เช่น ดาบ
หอก ง้าว ดั้ง เขน โล่ ไม้ศอกสั้น เป็นต้น
ความเป็นมาของกระบี่กระบอง
ชาติไทยเป็นชนชาติที่มีการต่อสู้ศึกสงครามเพื่อป้องกันประเทศ
รักษาความเป็นเอกราชของแผ่นดินที่ยาวนานชนชาติหนึ่ง คนไทยในยุคแรก ๆ
ที่เริ่มก่อตั้งแผ่นดินสุวรรณภูมิแหลมทองมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์
บรรพบุรุษในยุคดังกล่าวได้อาศัยสติปัญญา ความกล้าหาญ
และใช้อาวุธนานาชนิดที่มีอยู่ในท้องถิ่นและกองทัพเข้าต่อสู้ป้องกันมาโดยตลอด
เริ่มจากกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และ กรุงรัตนโกสินทร์
ชาติไทยเป็นชาติที่รักสงบมากกว่าที่จะคิดเบียดเบียนใคร
ความที่เป็นชาติที่รักสงบจึงมักถูกรังแกอยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้คนในชาติสมัยก่อนต้องดิ้นรนช่วยตัวเองทั้งชายและหญิง
บรรดาทหารกล้าตลอดจนชาวบ้านต่างฝึกฝน เสาะหาเรียนวิชาฟันดาบ
และการต่อสู้ด้วยอาวุธนานาชนิด จึงเกิดมีการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ
จนถึงขั้นประลองฝีมือ
ในสมัยก่อน
การประลองแบบแรกเป็นเรื่องจริงจังอาศัยหลักวิชาการต่อสู้เป็นหลัก
จึงมีคนนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าประลองกับชาวต่างชาติ
หรือชาวตะวันตกที่ใช้อาวุธของเขาเป็นหลักก็ยิ่งทำให้เป็นที่สนใจมากขึ้น
(ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็ยังมีการประลองมวย
และการต่อสู้ด้วยอาวุธหน้าพระที่นั่งเหมือนกัน)
ผู้เรียบเรียงคิดว่าการประลองทั้งสองแบบส่วนใหญ่คงจะมีปะปนกัน
เพราะแบบที่สองให้ความสนุกสนานในการชมควบคู่กันไป และแบบที่สอง
นี้คงจะพัฒนาการเล่นการแสดง ทำเลียนแบบ นัดแนะลูกไม้ แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ
นอกจากบาดเจ็บเมื่อพลาดพลั้งบางครั้ง และมีคนนิยมดูมากขึ้น เมื่อถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
รัชกาลที่ 1 - 2 มักจะเรียกว่า การประลองดาบ
การประลองหอก การประลองยิงธนู เป็นต้น
และเรียกบรรดาผู้คนที่มีวิชาความรู้เรื่องฟันดาบว่า นักดาบ
นำหน้าสำนักหรือหมู่บ้านชุมชนนั้น ๆ เช่น นักดาบจากบ้านบางระจัน
นักดาบจากกรุงศรีอยุธยา นักดาบจากพุกาม ทหารจากพม่า ลาว เขมร แต่จะไม่มีใคร
เรียกว่า นักกระบี่กระบอง เพราะคำว่า กระบี่ – กระบอง เกิดหลังรัชสมัยของรัชกาลที่
1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
มีคำกล่าวถึงที่มาของคำนี้อยู่หลายประการ
แต่ยังมีเหตุผลที่น่าคิดและน่าเชื่อถือได้อีก ประการหนึ่ง กล่าวคือ เรื่องรามเกียรติ์
กระบี่ หมายถึง หัวหน้าฝ่ายลิง(หนุมาน) ถือตรีหรือสามง่ามสั้น ๆ เป็นอาวุธ
ลิงรูปร่างเล็กเคลื่อนไหวเร็ว แคล่วคล่องว่องไว
ลูกน้องพลลิงทั้งหลายบางตัวก็ใช้พระขรรค์เป็นอาวุธ กระบอง หมายถึง
พวกยักษ์ที่พกกระบองเป็นอาวุธ ยักษ์มีรูปร่างใหญ่โต เคลื่อนไหวช้า เพราะฉะนั้นการจัดระเบียบเรียกแยกประเภท
อาวุธที่ใช้แสดงต่อสู้ป้องกันตัวน่าจะมาจากการแยกฝ่ายยักษ์และลิง โดย
ถือว่าลิงรูปร่างเล็กและผู้พากย์โขนมักเรียกขนานนามว่า ขุนกระบี่ ซึ่งหมายถึง
หนุมานหัวหน้าลิง ซึ่งมีตรีหรือสามง่ามสั้นพกเป็นอาวุธประจำกาย และพลลิงตัวอื่น ๆ
พกอาวุธสั้น เช่น พระขรรค์ เป็นต้น
ฉะนั้นคำว่า
"กระบี่" จึงถูกนำมาเป็นคำเรียกแยกให้รู้ว่าอาวุธสั้นทั้งหลายจะรวมเรียกว่า
กระบี่ซึ่งมี ดาบ โล่ ดั้ง เขน ไม้ศอกสั้น มีดสั้น พระขรรค์ เคียว ขวาน ตรี
สามง่ามสั้น และ สีโหล่“กระบอง" มาจาก ยักษ์
ที่ถือกระบองเป็นอาวุธยักษ์รูปร่างใหญ่โตและ การเคลื่อนไหวไม่ไวเท่าลิง
อาวุธนี้จึงถูกจัดเรียกว่า กระบอง ไม่ว่าสั้นหรือยาวเป็นหัวหน้า
ให้ความหมายรวมเป็นของยาวทั้งมวล ถ้าพูดตามความ
จริงแล้วการเคลื่อนไหวการต่อสู้จะทำได้ดีซึ่งส่วนมากจะเป็นวงนอก
ส่วนของสั้นจะทำได้ทั้งวงนอกและวงใน ฉะนั้นคำว่า “กระบอง”
จึงถูกแยกเรียกเป็นที่รวมของอาวุธยาวที่ใช้แสดงทั้งหมด เช่น พลอง
กระบอง ง้าวทุกชนิด โตมร ทวน หอก เป็นต้น
การเรียกกระบี่กระบองยังมีหลักฐานให้เห็นชัดในเรื่องอาวุธที่นิยมใช้แสดงและเล่นกัน
คือ คู่ของไม้ศอกสั้นกับพลอง นั่นคือความหมายที่ถูกจัดให้เห็นว่า อาวุธสั้นคือลิง
ผู้แสดงจะแสดงถึงหลักวิชาความคล่องแคล่วว่องไว
ส่วนพลองหรือกระบองคือตัวแทนของยักษ์เป็นประเภทอาวุธยาว
หนังสือ
–
กระบี่กระบอง (ฉบับปรับปรุง) หมวดหนังสือ – บันเทิงและกีฬา
ผู้แต่ง – รังสฤษฏิ์ บุญชลอ และ SKY SPORTS TEAM
หนังสือ
กีฬาต่างๆ ผู้แต่ง : บุญปัญญา รามรีสัง หมวด
:หนังสือเรียน
สำนักพิมพ์ : สกายบุ๊คส์
หนังสือกระบี่กระบอง
ประเภท : หนังสือการกีฬา สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์
ผู้แต่ง : ฟอง
เกิดแก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น